สำหรับในอดีต สิ่งที่เราเห็นได้บ่อยจนเจนตาคือบ้านไม้ไทยๆ ที่มีลักษณะใต้ถุนสูงนั่นเอง โดยจุดเด่นของบ้านที่มีใต้ถุนสูงคือการรับลมตามธรรมชาติได้ดีกว่าบ้านชั้นเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ปัจจุบันนี้ ไม้ได้กลายเป็นวัสดุที่หายาก มีราคาสูง อีกทั้งยังดูแลรักษาได้ยากอีกด้วย จะดีแค่ไหน หากว่าคุณจะเลือกศึกษาบ้านไม้ไทย กับนวัตกรรมอนาคตโดยบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งมีหลักการดังนี้
1.การประยุกต์เอาไม้จริงไปใช้ในส่วนต่างๆ ของภายในบ้านจากความคิดสร้างสรรค์ของบริษัทรับสร้างบ้าน
สำหรับสิ่งแรกที่จะเห็นได้บ่อยที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการนำเอาไม้จริงไปใช้ในส่วนต่างๆ ของบ้านนั่นเอง โดยปกติแล้ว เราทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าสัมผัสของไม้จริงกับไม้เทียมมีความแตกต่างกันอย่างยิ่ง ไม้เทียมจะให้ความรู้สึกที่แข็งกระด้าง ไม่อบอุ่น นิ่มนวลเหมือนไม้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไม้เทียมมาทำวัสดุเฟอร์นิเจอร์ หรือพื้น ยิ่งมอบความรู้สึกที่แตกต่างเกินบรรยาย ดังนั้นการนำเอาไม้เทียมมาตกแต่งในบ้านจึงเป็นสิ่งที่ไม่นิยม ส่วนมากแล้วจะนำเอาเศษไม้สัก มาต่อกันเป็นพื้นไม้ “ปาเกต์” นอกจากนี้ยังมีการนำเอาเศษไม้มาต่อกันเป็นเฟอร์นิเจอร์นั่งเล่น ในกรณีที่ไม้ขาดแคลนอย่างหนัก อาจจะมีการใช้เป็นวัสดุทดแทนไม้เช่นการนำเอาหวายสานมาใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ แล้วบุด้วยเบาะรองนั่งน่ารักๆ นั่นเอง
2.ส่วนนอกบ้านเน้นการใช้วัสดุทดแทนไม้
อย่างไรก็ดี ในส่วนของพื้นที่นอกบ้านหรือว่าพื้นที่กลางแจ้งกลับเป็นวัสดุทดแทนไม้เสียมากกว่าอะไรทั้งหมดเพราะว่าการที่ไม้จะต้องตากแดด ตากฝนเป็นเวลานานๆ จะทำให้เสื่อมอายุการใช้งานอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถใช้ไม้สนหรือว่าไม้ยางพาราแทนได้ จำเป็นต้องเน้นไปที่การใช้ไม้สัก ซึ่งราคาสูงเกินไป ยกตัวอย่างเช่นการทำพื้นที่ชานบ้าน หรือพื้นที่นั่งเล่นที่ยื่นเข้าไปในสวนนั่นเอง
3.การใช้ไม้เพื่อลดปัญหาบ้านร้อน
อีกหนึ่งการใช้ไม้อย่างสร้างสรรค์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็คือการใช้ไม้เพื่อลดปัญหาบ้านร้อน เช่น ผนังด้านใดที่มีการรับแสงแดดบ่อยก็จะใช้ไม้ตีเป็นฝาแทนการใช้คอนกรีต เพราะว่าไม้จะไม่อมความร้อนมากเท่ากับปูนหรือคอนกรีต ไม้ที่นิยมเป็นไม้จริงแทบทั้งสิ้น
เพราะสภาพแวดล้อมของโลกนั้นเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงทุกๆ วัน การแก้ปัญหาคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะสามารถลดปัญหาบ้านร้อนได้แบบยั่งยืน และไม่ต้องเบียดเบียนสำหรับธรรมชาติ อย่างการเปิดเครื่องปรับอากาศมากเกินไป และเป็นการใช้พลังงานเกินความจำเป็น เราต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าพลังงานธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถใช้ได้อย่างสิ้นเปลือง เราควรสงวนไว้ใช้เท่าที่จำเป็นโดยการปรึกษากับบริษัทรับสร้างบ้าน